ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของ เด็กหญิง กัญญารัตน์ คงอินทร์ เลขที่ 38 ม.2/2 โรงเรียน พิมานพิทยาสรรค์ ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

ลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อในอาหาร

ลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อในอาหาร
เกิดการท้องเสียฉับพลัน หรืออาเจียน ซึ่งเป็นอาการคล้ายคลึงกับอาการของอาหารเป็นพิษ แต่มีไข้เพิ่มเข้ามาด้วย และถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือด อย่างนี้ถือว่าลูกติดเชื้อโรคจำพวก Salmonella หรือ Shigella แล้วค่ะ ซึ่งมีอาการรุนแรงกว่าอาหารเป็นพิษ ทางที่ดีควรรีบพาลูกไปหาหมอรับยาฆ่าเชื้อ เพื่อยับยั้งการลุกลามของเชื้อโรคเป็นการด่วนค่ะ
1. เชื้อโรค : Staphylococcus aureus
อาหาร : พบมากในเนื้อสัตว์ แฮม มันฝรั่ง สลัดไข่ แซนวิช
อาการ : ท้องเสีย อาเจียน มักเกิดอาการภายใน 1-6 ชั่วโมงหลังกินอาหาร
วิธีรักษา : ให้กินยาแก้อาเจียน และดื่มน้ำเกลือแร่
2. เชื้อโรค : E.coli
อาหาร : พบมากในผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์
อาการ : ท้องเสีย อาเจียน มักเกิดอาการภายใน 1-4 วันหลังกินอาหาร
วิธีรักษา : ให้กินยาแก้อาเจียน และดื่มน้ำเกลือแร่
3. เชื้อโรค : Botulism
อาหาร : ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในอาหารกระป๋องที่หมดอายุ หรือในเนยแข็ง น้ำผึ้ง ผักสด
อาการ : ท้องเสีย อาเจียน มักเกิดอาการภายใน 12-48 ชั่วโมงหลังกินอาหาร
วิธีรักษา : ให้กินยาแก้อาเจียน และดื่มน้ำเกลือแร่
4. เชื้อโรค : Salmonella
อาหาร : ส่วนใหญ่จะพบในไข่ที่ปรุงไม่สุก หรือเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก หรือน้ำส้มคั้นที่ใส่ขวดเอาไว้ โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ
อาการ : จะรุนแรงกว่าอาหารเป็นพิษ คือมีไข้ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายมีมูกได้
วิธีรักษา : ควรพบหมอ
5. เชื้อโรค : Shigella
อาหาร : ส่วนใหญ่มักจะมีในผัก หรือผลไม้
อาการ : รุนแรงกว่าอาหารเป็นพิษ คือมีไข้ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และถ่ายมีมูกเลือด
วิธีรักษา : ควรพบหมอเพื่อรับยาฆ่าเชื้อ
อาหารเป็นพิษเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวลูกเรามาก พยายามปรุงอาหารให้สะอาด และสุกอยู่เสมอ รวมทั้งล้างมือก่อนและหลังกินข้าว รวมทั้งล้างพืช ผักผลไม้ด้วยวิธีให้น้ำไหลผ่าน และเลือกอาหารที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดี รับรองได้ว่าอาหารเป็นพิษจะไม่เกิดกับลูกของเราอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น